Go to Top

อยู่อย่างไรให้ดี ถ้าสายตาไม่ดี

− อยู่อย่างไรให้ดี ถ้าสายตาไม่ดี

อยู่อย่างไรให้ดี ถ้าสายตาไม่ดี

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสายตาด้วยแว่น หรือ คอนแทคเลนส์ได้ แต่คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากสายตาที่เหลืออยู่ได้ด้วยเครื่องมือและเทคนิคเหล่านี้

คนที่มีปัญหาทางด้านสายตา จะมีการมองเห็นที่ลดลงซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วย แว่นตาปกติ ,คอนแทคเลนส์ ,ยาหรือการผ่าตัด การสูญเสียสายตาของพวกเขาทำให้มันยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเห็นได้ดีพอที่จะปฏิบัติงานประจำวัน

โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ สูงอายุขึ้น  แต่เป็นผลมาจากโรคทางตาและภาวะสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถรักษาได้ การสูญเสียสายตาที่ไม่สามารถฟื้นคืนได้ แต่มีเครื่องมือและเครื่องช่วยหลายอย่างที่สามารถช่วยคนที่มีปัญหาทางด้านการมองเห็นไม่ดี ให้สามารถใช้การมองเห็นที่เหลืออยู่ให้ได้มากที่สุด โดยไม่ให้อาการทรุดถอยไปกว่าเดิม

 

สัญญาณเตือนเมื่อเกิดปัญหาการมองเห็น

ประชาชน จำนวน 135 ล้านคนทั่วโลกมีปัญหาทางด้านการมองเห็น ข้อมูลจาก สถาบันจักษุแห่งชาติธีโอะ

ปัญหาทางด้านการมองเห็นมักเกิดจากสภาพตาดังนี้ :

  • กล้ามเนื้อตาเสื่อมสภาพตามอายุ
  • ต้อกระจก
  • ต้อหิน
  • จอประสาทตาหลุดลอก
  • โรคเบาหวาน

 

โรคตาในชนิดที่พบบ่อยที่สุดของการสูญเสียสายตาที่ทำให้เกิดการมองเห็นลดลงได้แก่ :

  • การสูญเสียการมองเห็นจากส่วนกลาง ทำให้เกิดจุดเบลอหรือจุดบอดส่วนกลางของการมองเห็น แต่ยังมองเห็นรอบๆ (ด้านนอกของส่วนตรงกลาง) อยู่เหมือนเดิม
  • การสูญเสียการมองเห็นรอบนอก ซึ่งทำให้มองเห็นภาพตรงกลางชัดเจน แต่ทำให้มองไม่เห็นด้านข้าง หรือ ด้านบน ด้านล่างของส่วนตรงกลางสายตา
  • มองเห็นเป็นภาพเบลอ ซึ่งทุกสิ่งที่คุณเห็นจะเบลอ ไม่ว่าอยู่ใกล้หรือไกล
  • ตาไวต่อแสง แม้ว่าจะเป็นแสงในระดับปกติ ก็สามารถส่งผลกระทบให้สายตาของคุณได้ คุณอาจจะมีความรู้สึกปวดตาร่วมด้วย
  • มองเห็นเป็นหมอก มีอาการที่รู้สึกราวกับมีฟิล์ม ,หมอก หรือแสงสะท้อนมาคลุม หรือบังสายตาคุณอยู่
  • ตาบอดกลางคืน คุณจะพบว่าไม่สามารถมองเห็นภายนอกในเวลากลางคืนหรือในบริเวณที่มืดได้

 

 

ถ้าคุณคิดว่าคุณอาจจะมีปัญหาสายตา ให้ลองทดสอบสายตาโดยการสวมแว่นและทำตามตัวอย่างนี้

  • คุณมีปัญหาในการเลือกหยิบเสื้อผ้าให้เข้าคู่กัน ทั้งแบบเสื้อผ้า และ สีสัน ช่างไม่ตรงกันซะเลย
  • แสงสว่างมาก แต่ตาของคุณเห็นเป็นแสงสลัว
  • คุณพบว่ายากเหลือเกินที่จะจดจำใบหน้าของเพื่อนและญาติๆ
  • คุณพยายามที่จะอ่านสัญญานจราจรบนถนน หรือ ชื่อร้านค้า 
  • คุณมีปัญหาในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา อย่างเช่น การอ่านหนังสือ, การเย็บเสื้อผ้า ,การทำอาหาร หรือการซ่อมแซมบ้าน

ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้อยู่ละก็ คุณควรเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจประเมินสภาพสายตาบ้าง

 

เพิ่มอายุการใช้งานที่เหลืออยู่ให้สายตาของคุณ

มีอุปกรณ์มากมายที่สามารถช่วยผู้ที่มีปัญหาสายตาสามารถเอาชนะปัญหาการมองเห็นได้เช่น:

  • แว่นขยายหรือเลนส์ เป็นตัวช่วยให้สามารถถือใช้ได้ง่าย 
  • ตัวหนังสือขนาดใหญ่ เช่น หนังสือ , หนังสือพิมพ์ ,นิตยสาร ,โทรศัพท์, วาล์วน้ำ, รีโมท, เช็คธนาคาร และไพ่ เป็นเพียงไม่กี่อย่างที่เป็นของใช้ในครัวเรือนที่สามารถปรับให้มีตัวหนังสือขนาดใหญ่สำหรับให้ผู้บกพร่องทางการมองเห็นใช้ได้ (คอมพิวเตอร์จำนวนมากสามารถขยายข้อความและรูปภาพด้วยการกดแป้นพิมพ์แบบง่ายๆได้)
  • อุปกรณ์ที่พูดได้ ควรซื้อนาฬิกาข้อมือ และอุปกรณ์สำหรับใช้ในครัวเรือนอื่น ๆในรูปแบบ “พูดคุย” ได้นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถพูดคุยได้อัตโนมัติเช่น เครื่องตรวจวัดความดันโลหิต และเครื่องตรวจวัดกลูโคสในเลือด ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถซื้อซอฟต์แวร์สำหรับคนมีปัญหาทางสายตามาใช้ได้ ซึ่งคอมพิวเตอร์จะอ่านตัวหนังสือบนหน้าจอได้อย่างชัดเจน ผู้ที่มีปัญหาสายตายังสามารถซื้อหนังสือเสียง หรือยืมมาใช้จากห้องสมุดได้อีกด้วย

 

เพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์ให้ดีขึ้นและทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ยิ่งขึ้น โปรดพิจารณาขั้นตอนเหล่านี้:

  • ปรับปรุงแสงในบ้าน แสงที่สว่างและปราศจากแสงสะท้อน ทำให้ผู้ที่มีปัญหาในการมองเห็นทำงานได้ง่ายขึ้น ใส่ที่ป้องกันดวงตาเมื่อต้องออกไปด้านนอกอาคาร
  • สวมหมวกปีกกว้างและแว่นกันแดด เพื่อปกป้องดวงตาจากแสงแดดนอกบ้าน ถ้าคุณเป็นคนที่มีปัญหาตาไวต่อแสงมาก ควรออกแบบสภาพแวดล้อมในบ้านใหม่เพื่อการมองเห็นที่ดียิ่งขึ้น
  • เลือกสีที่ให้ความแตกต่างกันในบ้านให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้คุณเห็นวัตถุได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ติดตั้งสวิตช์ไฟสีเข้มบนผนังสีขาว จะช่วยเพิ่มการมองเห็นสวิตช์ไฟได้ชัดเจนขึ้น และติดเทปกาวสีอ่อนบนขอบบันไดสีดำจะช่วยให้คุณมองเห็นขอบบันไดได้ชัดเจนขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการตกบันได ไม่ใช้พรมและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นลายทาง , ลายสก๊อต หรือ รูปแบบที่ทำให้เกิดความสับสนเมื่อมองเห็น
  • ใช้ความรู้สึก พื้นผิวที่แตกต่างกันสามารถช่วยให้คุณเดินไปรอบๆบ้านได้แม้จะมองไม่เห็น ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเดินออกจากพรมแล้วเดินลงบนกระเบื้อง คุณจะรู้ได้ทันทีว่า คุณได้เดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วกำลังเดินไปยังห้องครัว เป็นต้น

 

 

 

 

อ้างอิงจาก 

everydayhealth.com

โดย Dennis Thompson, Jr.

Medically Reviewed by Lindsey Marcellin, MD, MPH